ขอเอาใจ ชาว Work Hard, Play Hard งานแน่น งานหนัก จนไม่มีเวลาได้พักผ่อน ทำให้วัยทำงานคือวัยที่ใช้ร่างกายอย่างหนักหน่วงที่สุด ในทุกวันเราต้องใช้สมองเต็มที่ไปกับการทำงานจนลืมให้ความสำคัญกับเรื่องอาหารและการกิน แถมยังพักผ่อนไม่เพียงพอ พฤติกรรมที่เราทำทุกวันแบบนี้นับว่าไม่ส่งผลดีกับร่างกายนัก แต่ถ้าหากมันเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ก็ตองหาตัวช่วย เริ่มจากการหาวิตามินบํารุงร่างกายแล้วค่อยๆ ปรับการกินและการใช้ชีวิตควบคู่กันไป ทางเลือกนี้จะทำให้ร่างกายอันทรงคุณค่าของเรานั้นกลับมามีพลังปั่นงานอีกครั้ง จะบรีฟโหด นอนน้อยแต่นอนนะ หรือใกล้เดดไลน์ยังไงก็สู้ไหว
ทำงานหนัก เติมหน่อย วิตามินบํารุงร่างกาย
1. บำรุงสายตา และผ่อนคลายความเมื่อยล้า ด้วยวิตามิน A
การใช้สายตาจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือโฟกัสอะไรนานๆ อาจทำให้เกิดอาการตาแห้ง แสบตา ตาล้าได้ การใช้สายตาในที่มืดมากเกินไป หรือบางทีความเครียดสะสมก็ทำให้เราปวดตาได้เช่นกัน ซึ่งการทานอาหารที่มีวิตามิน A จะช่วยบำรุงสายตาและลดความเสี่ยงของโรคกระจกตาเสื่อมได้ ซึ่งวิตามิน A มักพบในธัญพืช ผักใบเขียว ผลไม้ที่มีสีแดง สีส้ม สีเหลือง เนื้อสัตว์ และน้ำมันปลา จากโฟกัสเพียงหน้าจอลองแบ่งเวลามาโฟกัสอาหารบำรุงสายตาอีกหน่อย เพียงเท่านี้ตาของเราก็จะใสปิ๊ง
2. บรรเทาอาการวิตกกังวล ด้วยวิตามิน B
การทำงานหนักอาจส่งผลให้เรามีอาการวิตกกังวล มาพร้อมความเครียดสะสม และรู้สึกอุดอู้สมองไม่ไบรท์ ตัวช่วยอย่างวิตามิน B เป็นสิ่งที่ทำให้ปัญหาเหล่านี้บรรเทาลงได้ ส่วนสารอาหารที่สามารถพบวิตามิน B เช่น กล้วย หรือธัญพืชอย่างถั่วลิสง หรืออัลมอนด์ อีกวิธีคือการได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ 6-8 ชั่วโมง หรือถ้าใครถนัดเป็นตัวเลือกอาหารเสริม ก็สามารถหาสิ่งที่เรียกว่าวิตามินบีรวมชนิดเม็ดมากินได้เช่นกัน
3. เสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ด้วยวิตามิน C
ฝุ่นเยอะ นอนน้อย อากาศเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวฝน แบบนี้คนเป็นภูมิแพ้รับบทเป็นผู้รับผลกระทบโดยตรง หรือแม้แต่คนที่มีร่างกายแข็งแรงบางทีก็ไม่รอด ช่วงนี้รู้สึกภูมิตก ป่วยง่าย แบบนี้วิตามิน C ช่วยได้ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายด้วยการเลือกกินผักผลไม้ที่มีวิตามิน C สูง เช่น ส้ม มะขามป้อม แอปเปิ้ล มะละกอ บรอกโคลี และคะน้า เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ประกอบไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ สร้างเสริมให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดีและลดความเสี่ยงจากการป่วยต่างๆ
4. ป้องกันการสูญเสียแคลเซียมจากกระดูก ด้วยวิตามิน D
เมื่อเราหักโหมใช้ร่างกายอย่างหนัก ผลกระทบที่เรามองไม่เห็นคือร่างกายที่เสื่อมสภาพและมีอายุมากกว่าวัยจริง อายุน้อยแต่ปวดหลัง แถมยังพ่วงโรคต่างๆ อีกมากมาย หากอยากรับแคลเซียมได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีกระดูกที่แข็งแรง ต้องเติมวิตามิน D ให้พอ แต่เมืองร้อนอย่างบ้านเราการรับวิตามิน D จากแสงแดดยามเช้าไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายเลย หลักๆ จึงต้องหันมาหาวิตามิน D จากอาหารแทนจะง่ายกว่า อย่างอะโวคาโด ไข่ต้ม เนื้อปลา หรือนม ดูน่าอร่อยและง่ายกว่าไปยืนตากแดดแน่นอน และวิตามินชนิดนี้ยังช่วยในส่วนของผู้ที่รักการเล่นกีฬาได้ออกกำลังอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย
5. ดูแลทั้งสุขภาพและความงามไปพร้อมกันได้ ด้วยวิตามิน E
หลายคนประสบกับปัญหาหน้าโทรมจากการทำงานหนักและพักผ่อนน้อย แก้ยังไงก็ไม่หายสักที ปัญหาที่คนวัยทำงานอาจไม่ทันนึกถึง บางทีอาจจะมีสาเหตุมาจากร่างกายขาดวิตามิน E ที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างสารต้านอนุมูลอิสระ และชะลอความเสื่อมของเซลล์ จึงทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย ซึ่งวิตามิน E สามารถหาได้ทั้งในรูปแบบของอาหาร เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช และในรูปแบบของเครื่องสำอางไม่ว่าจะเป็นโลชั่นบำรุงผิว หรือผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดต่างๆ หากใครอยากดูดีแบบคูณสองคงต้องให้ความสนใจกับวิตามิน E มากขึ้นแล้ว
6. ขจัดความอ่อนเพลีย คืนความสดใสกลับคืนสู่ร่างกาย ด้วยธาตุเหล็ก
แร่ธาตุที่ร่างกายขาดไม่ได้ แล้วถ้ายิ่งเป็นผู้หญิงแล้วก็ต้องยกให้ธาตุเหล็กเป็นแร่ธาตุที่สำคัญเป็นกรีณีพิเศษ หากวันไหนที่อดหลับอบนอนปั่นงานไม่ได้พักแล้วกำลังเป็นวันนั้นของเดือน สิ่งที่สาวๆ ต้องพบเจอคืออาการอ่อนเพลีย หมดแรง จนไม่อยากจะขยับตัวกันเลยทีเดียว การเสริมธาตุเหล็กจะช่วยบรรเทาอาการเหล่านี้ได้ ซึ่งธาตุเหล็กจะเป็นส่วนประกอบของเม็ดเลือดแดง จำเป็นต้องเสริมให้มีมากพอต่อความต้องการของร่างกาย เราจะพบธาตุเหล็กได้จากเนื้อสัตว์ และเครื่องในอย่างตับและเลือด หรือจะหาเป็นอาหารเสริมชนิดเม็ดก็สะดวกตอบโจทย์
7. เสริมความแข็งแรงกระดูก และป้องกันกระดูกพรุน ด้วยแคลเซียม
ป้องกันไว้ก่อน อนาคตจะได้จะได้ไม่ลำบาก หลายคนอาจคิดว่ากระดูกพรุนมักเป็นกันเมื่อสูงวัย แต่อันที่จริงแล้วไลฟ์สไตล์ของเราในแต่ละวันก็ส่งผลระยะยาวเช่นเดียวกัน การนอนดึก ดื่มเหล้า ดื่มคาเฟอีน และสูบบุหรี่ คือสาเหตุที่ทำให้กระดูกของเราเปราะได้ง่ายขึ้น ซึ่งการดูแลให้กระดูกของเราแข็งแรงนั้นคือการเสริมด้วยวิตามิน D และแคลเซียม การเลือกกินนม ถั่ว เต้าหู้ ปลาซาร์ดีน หรือปลาแซลมอน ก็เป็นอีกตัวเลือกที่ทำให้ร่างกายของเราได้รับแคลเซียมและมีสุขภาพที่แข็งแรงได้
8. เรียกคืนพลังสมอง ด้วยโอเมก้า 3
ใครที่เป็นสายเวิร์คอะโฮลิกทุกวินาทีคือการทำงาน แบบนี้การหาเวลาพักผ่อนคงทำได้ไม่ง่ายนัก เมื่อรักในการทำงานก็หมายถึงการต้องใช้พลังสมองอย่างมหาศาล และต้องมีกระบวรการคิดที่สดใหม่ตลอดเวลา การเสริมวิตามินบำรุงร่างกายด้วยโอเมก้า 3 อาจช่วยให้สนุกกับการทำงานได้มากยิ่งขึ้น เพราะสิ่งนี้จะช่วยฟื้นฟูระบบประสาท ช่วยลดความเมื่อยล้า และยังสามารถลดอาการอัลไซเมอร์ได้อีกด้วย ซึ่งปกติแล้วจะพบโอเมก้า 3 ได้จากอาหารทะเล หรือน้ำมันปลาที่สกัดมาจากแหล่งธรรมชาติ
9. ความจำดี เรียนรู้ไว ด้วยโพแทสเซียม
งานล้นจนทำแทบไม่ทัน บางครั้งต้องโอทียาวอดหลับอดนอน ช่วงนี้หลงๆ ลืมๆ รู้สึกสมองช้า อาการเหล่านี้อาจกำลังบอกว่าร่างกายขาดโพแทสเซียม เมื่อออกซิเจนไปเลี้ยงที่สมองมีไม่เพียงพอจะทำให้ความสามารถในการจดจำลดลง ตามมาด้วยความเสี่ยงเป็นโรคร้ายแรงต่างๆ เช่น ความดันโลหิตที่สูง และโรคหัวใจ การเสริมโพแทสเซียมให้ร่างกายคือการเลือกกินผลิตภัณฑ์นมที่มีไขมันต่ำ ธัญพืช ถั่ว ผงโกโก้ ลูกพรุน ลูกเกด สมองจะกลับมามีประสิทธิภาพเหมือนเดิมเพียงเราเลือกอาหารที่ดีต่อร่างกาย
10. บำรุงระบบประสาท และกระบวนการทำงานของร่างกาย ด้วยซิงค์
เมื่อรู้สึกว่าร่างกายเริ่มอ่อนเพลีย ไม่อยากอาหาร ภูมิคุ้มกันตกจนทำให้ป่วยง่าย ซิงค์อาจเป็นสิ่งจำเป็นที่ตอบโจทย์และควรเสริมเพื่อบำรุงร่างกาย ซิงค์หรือธาตุสังกะสีมีส่วนสำคัญในการช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน และช่วยป้องกันเชื้อไวรัส ช่วยบำรุงในส่วนของเล็บและเส้นผม นอกจากนี้แล้วยังทำหน้าที่ควบคุมระบบประสาทและกระบวนการทำงานในร่างกายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เรียกได้ว่าซิงค์มีความจำเป็นต่อร่างกายของเรามากๆ
เมื่อร่างกายเริ่มอ่อนแอความป่วยไข้ก็จะเป็นสิ่งที่ตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ วิตามินและแร่ธาติทั้ง 10 อย่างสามารถทำให้ร่างกายของเรากลับมาทำงานได้ก็จริง แต่จะดีเป็นพิเศษถ้าเราเลือกที่จะดูแลสุขภาพด้วยการเลือกกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ และเสริมด้วยวิตามินบํารุงร่างกาย นอกจากนี้แล้วควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และพักผ่อนให้เพียงพอ แบบนี้น่าจะเป็นวิธีที่ถูกต้องและยั่งยืนที่สุด เพราะการพักผ่อนน้อยอาจส่งผลเสียในระยะยาวโดยที่เราเองก็ไม่รู้ตัวและไม่ทันคาดคิด