วิตามินรวมเป็นอาหารเสริมยอดนิยมที่มีประโยชน์มากมาย ช่วยให้ร่างกายของเราได้รับวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นอย่างครบถ้วน เป็นเหมือนตัวช่วยในการดูแลสุขภาพโดยรวม เนื่องจากด้วยไลฟ์สไตล์ในปัจจุบันทำให้การดูแลด้านอาหารการกินให้ร่างกายได้รับวิตามินอย่างเพียงพออาจเป็นเรื่องยาก การรับประทานวิตามินรวมนั้นให้ประโยชน์ในทุกเพศทุกวัย แต่อาจแตกต่างกันไปตามความต้องการเฉพาะของแต่ละคน ที่สำคัญคือเราต้องมีเทคนิคในการเลือกวิตามินรวมที่ได้คุณภาพและเหมาะสมสำหรับความต้องการนั่นเอง
ใครบ้างที่จำเป็นต้องเสริมวิตามินรวม
- ผู้ที่มีภาวะพร่องโภชนาการ หรือขาดสารอาหาร
- ผู้ที่มีปัญหาด้านสุขภาพเกี่ยวกับการดูดซึมสารอาหาร
- ผู้ที่ลดน้ำหนักแบบผิดวิธี
- ผู้ที่เข้ารับการผ่าตัดและร่างกายต้องได้รับการฟื้นฟู
- ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร
- ผู้ที่มีข้อจำกัดด้านการรับประทานอาหารเนื่องจากอาการเจ็บป่วย
- ผู้ที่รับประทานมังสวิรัติ
แม้ว่าโดยทั่วไปเราจะได้รับวิตามินรวมจากอาหารต่างๆ ที่เรารับประทานเข้าไป แต่ในบางเวลา เช่น เมื่อเราเจ็บป่วย มีความเครียด โหมงานหนัก วิตามินที่ได้รับตามปกติก็อาจไม่เพียงพอ เราจึงจำเป็นต้องเสริมด้วยวิตามินรวม
5 วิธีเลือกวิตามินรวมให้เหมาะ
- เลือกดูผลิตภัณฑ์ที่มีวิตามินรวมที่จำเป็นอย่างครบถ้วน ในปริมาณและสัดส่วนที่เหมาะสม อาทิ วิตามินซี วิตามินบี วิตามินดี และธาตุเหล็ก เป็นต้น
- เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีความน่าเชื่อถือ มีมาตรฐานและได้รับการรับรองจาก CGMP (Current Good Manufacturing Practices) ซึ่งจะให้การรับรองเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานและมีความปลอดภัยตามข้อกำหนด รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา
- คำนึงถึงความต้องการด้านสารอาหาร เช่น หากเราเป็นผู้รับประทานอาหารมังสวิรัติก็อาจจะต้องเลือกวิตามินรวมที่มีวิตามินบี 12 ในระดับสูงเพื่อชดเชยกับวิตามินที่มีเฉพาะในอาหารประเภทเนื้อสัตว์ ในขณะที่สตรีมีครรภ์ก็อาจต้องเลือกรับประทานวิตามินรวมที่มีกรดโฟลิกเสริมมากเป็นพิเศษ ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อพัฒนาการของทารก เป็นต้น
- เข้าใจความต้องการตามช่วงวัยและไลฟ์สไตล์เฉพาะของตัวเอง เช่น หากคุณอยู่ในช่วงวัยทำงาน มีการโหมงานหนัก พักผ่อนน้อย ก็อาจจะเน้นเลือกวิตามินรวมที่มีสัดส่วนของกลุ่มวิตามินบีมากกว่ากลุ่มสำหรับดูแลเรื่องผิวพรรณ หรือในผู้สูงอายุก็อาจต้องการวิตามินดีและแคลเซียมมากขึ้นเพื่อดูแลเรื่องกระดูก เป็นต้น
- เลือกรูปแบบของอาหารเสริมที่เหมาะกับตัวเอง บางคนอาจไม่ชอบวิตามมินรวมแบบเม็ดเพราะมีขนาดใหญ่ ก็อาจเลือกเป็นวิตามินรวมชนิดเม็ดฟู่ละลายน้ำทดแทนได้ หรือบางคนอาจชอบวิตามินรวมแบบเคี้ยวหรือกัมมี่เพราะสะดวกและมีรสชาติดี อย่างไรก็ตาม ควรเลือกวิตามินรวมในรูปแบบที่เราจะสามารถรับประทานได้อย่างต่อเนื่องเพื่อให้เราได้รับประโยชน์สูงสุดนั่นเอง
ข้อควรระวังในการเลือกซื้อวิตามินรวม
- ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพก่อนเริ่มรับประทานวิตามินรวมใดใด โดยเฉพาะในผู้ที่ตั้งครรภ์ อยู่ในระหว่างการรักษา หรือกำลังรับประทานยาบางชนิด
- อย่าลืมอ่านฉลากอย่างละเอียดและตรวจสอบปริมาณของส่วนผสมของวิตามินแต่ละชนิดเพื่อไม่ให้ร่างกายได้รับวิตามินบางชนิดสูงจนเกินไป ซึ่งอาจเป็นอันตรายได้ เช่น วิตามินเอหากรับประทานมากเกินไปอาจเป็นพิษได้ หรือธาตุเหล็กหากได้รับมากเกินก็อาจทำให้เกิดอาการท้องผูกได้
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารบางชนิดในปริมาณมาก เนื่องจากอาหารนั้นๆ อาจมีปริมาณวิตามินที่ตรงกับที่เรากำลังรับประทานเสริม ซึ่งจะทำให้ร่างกายได้รับวิตามินชนิดนั้นเกินความจำเป็น
- อย่าลืมคำนึงถึงปัญหาด้านสุขภาพอื่นๆ อาทิ เบาหวาน หรือการแพ้กลูเตน ซึ่งจะส่งผลต่อการเลือกรูปแบบวิตามินรวมที่จะรับประทาน
- ไม่ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีการโฆษณาถึงผลลัพธ์ที่รวดเร็วและเกินจริง เช่น ช่วยให้ผิวกระจ่างใสใน 7 วัน หรือช่วยลดน้ำหนักได้ หรือสามารถช่วยรักษาโรคบางชนิดได้ เนื่องจากอาจมีส่วนผสมที่เป็นอันตราย และวิตามินเป็นเพียงการเสริมสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายให้ครบถ้วน แต่ไม่มีผลต่อการรักษาโรคโดยตรง
การเลือกวิตามินรวมที่เหมาะสมกับเราอาจต้องใส่ใจและหาข้อมูลเพื่อความเหมาะสมในการเลือกรับประทานให้ตรงกับความต้องการ ไม่ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่นิยมหรือเพียงได้รับการบอกต่อ แต่ควรเลือกดูผลิตภัณฑ์ที่มีความน่าเชื่อถือ มีฉลากบอกรายละเอียดอย่างครบถ้วน ได้มาตรฐาน มีการรับรอง และที่สำคัญคือมีปริมาณวิตามินรวมที่เหมาะกับความต้องการของร่างกายของเรา